หลังจากที่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ได้เปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่คนโปรดอย่าง Spider-Man หรือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เวอร์ชันใหม่ที่รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์ ไปแล้วใน Captain America: Civil War (2016) การกลับมาครั้งนี้ใน Spider-Man: Homecoming (2017) คือการพาผู้ชมไปสำรวจชีวิตของวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ของการเป็นฮีโร่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉีกขนบธรรมเนียมของภาพยนตร์ Spider-Man ในอดีต โดยเลือกที่จะไม่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดซ้ำซ้อน แต่เน้นไปที่ชีวิตประจำวันของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในฐานะเด็กนักเรียนมัธยมปลายผู้คลั่งไคล้การเป็นอเวนเจอร์ส และความพยายามของเขาในการพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่ สตาร์ค เห็นว่าเขามีดีพอที่จะเป็นหนึ่งในฮีโร่ระดับโลกได้อย่างแท้จริง
ตัวละครหลัก: โลกของปีเตอร์และเหล่าผู้คนรอบตัว
- ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์-แมน (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์): เด็กหนุ่มอัจฉริยะวัย 15 ปี ผู้ถูกแมงมุมกัมมันตภาพรังสีกัด ทำให้เขามีพลังพิเศษ แต่เขากลับเป็นเด็กที่แสนจะธรรมดาในชีวิตจริง ไม่ได้เป็นที่นิยมในโรงเรียน ชอบเก็บตัว และคลั่งไคล้ซูเปอร์ฮีโร่ เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของอเวนเจอร์สอย่างสุดใจ และพยายามใช้พลังของตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้คนในท้องถิ่น แต่ก็ยังขาดประสบการณ์และวุฒิภาวะในการตัดสินใจ
- โทนี่ สตาร์ค / ไอรอน แมน (รับบทโดย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์): มหาเศรษฐีอัจฉริยะผู้เป็นผู้สร้างสรรค์ชุดไอรอน แมน และเป็นผู้ชักนำปีเตอร์เข้าสู่โลกของอเวนเจอร์ส เขาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและผู้ให้คำปรึกษาแก่ปีเตอร์ แต่ก็ยังคงเฝ้าระวังไม่ให้ปีเตอร์กระทำสิ่งใดที่เกินตัว
- เอเดรียน ทูมส์ / เดอะ วัลเจอร์ (รับบทโดย ไมเคิล คีตัน): วายร้ายหลักของเรื่อง อดีตเจ้าของบริษัทกู้ซากที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของหน่วยงาน Damage Control ของโทนี่ สตาร์ค ทำให้เขาต้องผันตัวมาเป็นพ่อค้าอาวุธผิดกฎหมายที่สร้างจากเทคโนโลยีต่างดาว
- เน็ด ลีดส์ (รับบทโดย เจคอบ บาตาลอน): เพื่อนสนิทของปีเตอร์ ผู้ค้นพบความลับการเป็นสไปเดอร์-แมนของปีเตอร์ และทำหน้าที่เป็นคู่หูทางเทคนิคและกำลังใจให้กับปีเตอร์
- ป้าเมย์ (รับบทโดย มาริสา โทเม): ป้าของปีเตอร์ ผู้ดูแลเขาด้วยความรักและเป็นห่วงเป็นใย โดยไม่รู้ว่าหลานชายของตนเองคือสไปเดอร์-แมน
- มิเชลล์ โจนส์ “เอ็มเจ” (รับบทโดย เซนดายา): เพื่อนร่วมชั้นของปีเตอร์ ผู้มีบุคลิกแปลกแยก ไม่สนโลก และช่างสังเกต
- ลิซ อัลลัน (รับบทโดย ลอรา แฮร์ริเออร์): รุ่นพี่ที่ปีเตอร์แอบชอบ และเป็นลูกสาวของเอเดรียน ทูมส์
- แฮปปี้ โฮแกน (รับบทโดย จอน ฟาฟโร): หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของโทนี่ สตาร์ค ผู้คอยดูแลปีเตอร์ตามคำสั่งของโทนี่
เรื่องย่อ: ชีวิตสองด้านของซูเปอร์ฮีโร่วัยเรียน
ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการย้อนไปเมื่อแปดปีก่อน (นับจากเหตุการณ์ The Avengers ในปี 2012) เมื่อเอเดรียน ทูมส์ เจ้าของบริษัทกู้ซากที่ได้รับสัญญาในการทำความสะอาดเศษซากความเสียหายจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวในนิวยอร์ก ถูกบีบให้ออกจากงานโดยหน่วยงาน Damage Control ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากโทนี่ สตาร์ค ด้วยความคับแค้นใจ ทูมส์และลูกทีมจึงตัดสินใจเก็บชิ้นส่วนเทคโนโลยีต่างดาวที่พวกเขากู้มาได้เอาไว้เอง และนำไปประดิษฐ์เป็นอาวุธล้ำสมัยเพื่อขายในตลาดมืด ทำให้เขากลายเป็นวายร้าย “วัลเจอร์” ในที่สุด
จากนั้น เรื่องราวก็ตัดมาที่ปัจจุบัน (หลังเหตุการณ์ Captain America: Civil War) ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ กลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่นในเมืองควีนส์ นิวยอร์ก หลังจากที่ได้มีโอกาสไปร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าอเวนเจอร์สในเยอรมนี เขายังคงตื่นเต้นและอยากพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่ สตาร์ค เห็นว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะเป็นอเวนเจอร์สเต็มตัว โทนี่ สตาร์ค มอบชุดสไปเดอร์-แมนสุดไฮเทคให้ปีเตอร์สวมใส่ พร้อมระบบ AI อัจฉริยะที่ชื่อว่า “แคเรน” และคอยดูแลเขาผ่านแฮปปี้ โฮแกน ผู้คอยเป็นผู้ประสานงานระหว่างปีเตอร์กับโทนี่ แต่โทนี่กลับสั่งให้ปีเตอร์ใช้พลังของตัวเองในระดับ “เพื่อนบ้าน” เท่านั้น และห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆ
ปีเตอร์พยายามทำหน้าที่ฮีโร่ในท้องถิ่น ช่วยเหลือผู้คนเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจับรถขโมย หรือช่วยป้าแก่ๆ ข้ามถนน เขามักจะอัดวิดีโอภารกิจของตัวเองส่งไปให้แฮปปี้ เพื่อหวังให้โทนี่ประทับใจ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบรับที่ดีนัก ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียน Midtown School of Science and Technology ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กอัจฉริยะ ปีเตอร์ต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างชีวิตธรรมดาในโรงเรียน กับชีวิตลับๆ ในฐานะสไปเดอร์-แมน
อยู่มาวันหนึ่ง ปีเตอร์ได้บังเอิญไปพบเห็นกลุ่มโจรใช้ปืนที่สร้างจากเทคโนโลยีต่างดาว ซึ่งมีอานุภาพทำลายล้างสูง เขาพยายามสืบสวนและพบว่าอาวุธเหล่านี้มาจากกลุ่มของวัลเจอร์ ปีเตอร์พยายามแจ้งให้แฮปปี้และโทนี่ทราบถึงอันตรายนี้ แต่โทนี่กลับไม่เชื่อมั่นในตัวปีเตอร์ และมองว่าเขากำลังทำเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย โทนี่บอกให้ปีเตอร์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้และตั้งใจเรียน
ด้วยความรู้สึกว่าถูกมองข้ามและไม่ได้รับความไว้วางใจ ปีเตอร์จึงตัดสินใจที่จะสืบสวนเรื่องของวัลเจอร์ด้วยตัวเอง เขาใช้เทคโนโลยีในชุดสไปเดอร์-แมน รวมถึงระบบ AI แคเรน ในการแกะรอยและค้นหาแหล่งที่มาของอาวุธ ทว่าการกระทำที่ขาดความยั้งคิดของปีเตอร์ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายหลายครั้ง เช่น การทำให้เรือเฟอร์รี่เกิดความเสียหายอย่างหนัก หลังจากที่เขาพยายามเข้าปะทะกับกลุ่มของวัลเจอร์บนเรือลำนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้โทนี่ สตาร์ค โกรธมาก และตัดสินใจริบชุดสไปเดอร์-แมนไฮเทคคืนจากปีเตอร์ เพื่อลงโทษและสั่งสอนให้เขาเข้าใจถึงขีดจำกัดและผลของการกระทำที่ประมาท
ปีเตอร์รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำให้โทนี่ผิดหวัง เขากลับไปใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนธรรมดาอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าตกใจ: ลิซ อัลลัน รุ่นพี่ที่เขาแอบชอบมาตลอด คือลูกสาวของเอเดรียน ทูมส์ หรือ เดอะ วัลเจอร์ นั่นเอง! การเปิดเผยความลับนี้เกิดขึ้นในคืนที่ปีเตอร์ไปรับลิซเพื่อไปงานพรอม โดยที่ทูมส์เป็นคนขับรถมาส่ง เมื่อทูมส์รู้ว่าปีเตอร์คือสไปเดอร์-แมน ความตึงเครียดก็ก่อตัวขึ้น ทูมส์ขู่ปีเตอร์ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของเขา ไม่เช่นนั้นทั้งปีเตอร์และคนที่เขารักจะต้องเป็นอันตราย
แม้จะไม่มีชุดไฮเทค ปีเตอร์ก็ตัดสินใจที่จะปกป้องคนที่เขารักและหยุดยั้งวัลเจอร์ให้ได้ เขาหวนกลับไปใช้ชุดสไปเดอร์-แมนแบบโฮมเมดที่เขาออกแบบเอง และออกเดินทางไปขัดขวางแผนการสุดท้ายของวัลเจอร์ ซึ่งคือการปล้นเครื่องบินของโทนี่ สตาร์ค ที่บรรทุกอาวุธและเทคโนโลยีล้ำสมัยมูลค่ามหาศาล
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นบนเครื่องบินขนส่ง อาวุธที่วัลเจอร์ใช้เริ่มรวนและควบคุมไม่ได้ ทำให้เขาต้องตกอยู่ในอันตราย ปีเตอร์ซึ่งมีโอกาสที่จะปล่อยให้วัลเจอร์ตายได้ กลับเลือกที่จะช่วยเหลือวัลเจอร์ไว้ แม้ว่าวัลเจอร์จะเป็นศัตรูของเขาก็ตาม การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของฮีโร่ที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่การปราบปรามวายร้าย แต่คือการช่วยเหลือชีวิตและยึดมั่นในคุณธรรม
หลังจากการต่อสู้ ปีเตอร์สามารถหยุดยั้งวัลเจอร์ได้สำเร็จ และช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ก่อนที่วัลเจอร์จะถูกจับกุมและส่งตัวเข้าคุก โทนี่ สตาร์ค ซึ่งรับรู้ถึงวีรกรรมของปีเตอร์ ตัดสินใจคืนชุดสไปเดอร์-แมนให้เขา และเสนอตำแหน่งสมาชิกอเวนเจอร์สเต็มตัวให้ แต่ปีเตอร์กลับปฏิเสธข้อเสนอนั้น โดยให้เหตุผลว่าเขายังคงอยากเป็น “สไปเดอร์-แมนเพื่อนบ้าน” ที่คอยช่วยเหลือผู้คนในระดับท้องถิ่น และต้องการใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่ก่อนที่จะแบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ โทนี่ สตาร์ค เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของปีเตอร์
ภาพยนตร์ปิดท้ายด้วยฉากที่ปีเตอร์กลับมาใช้ชีวิตวัยรุ่นตามปกติ และเรียนรู้ที่จะรักษาสมดุลระหว่างสองบทบาท จนกระทั่งเขาได้กลับมาที่บ้าน และถอดชุดสไปเดอร์-แมนออก โดยไม่รู้ว่าป้าเมย์กำลังเดินเข้ามาในห้อง และเธอก็ได้เห็นชุดสไปเดอร์-แมนเต็มสองตา พร้อมกับอุทานด้วยความตกใจว่า “อะไรเนี่ย!” ซึ่งเป็นฉากจบที่ทิ้งความคาดหวังไว้สำหรับการผจญภัยครั้งต่อไปของสไปเดอร์-แมน
บทสรุป: Spider-Man Homecoming (2017) สไปเดอร์แมน โฮมคัมมิ่ง
Spider-Man: Homecoming ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกเรื่อง แต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวการก้าวผ่านวัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจความหมายของการเป็นฮีโร่ ทอม ฮอลแลนด์ ถ่ายทอดความเป็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ได้อย่างน่าเชื่อถือ ทั้งความกะล่อน ความไม่มั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะทำความดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของ Spider-Man นั่นคือการเป็นฮีโร่ที่ใกล้ชิดกับผู้คนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับภัยคุกคามระดับจักรวาลเสมอไป การช่วยเหลือคนเล็กคนน้อยในชีวิตประจำวันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และการเป็นฮีโร่ที่แท้จริงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับชุดไฮเทคหรือพลังพิเศษ หากแต่ขึ้นอยู่กับ “หัวใจ” ที่พร้อมจะเสียสละและปกป้องผู้อื่น นี่คือ “โฮมคัมมิ่ง” ที่พาปีเตอร์กลับมาสู่แก่นแท้ของการเป็นสไปเดอร์-แมน และทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ขวัญใจผู้ชมอีกครั้งอย่างแท้จริง